วันพุธที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2557

part 2 intermediate

part 2 intermediate

การปรับแต่งภาพ Retouch and Heal (continue from basic part) Patch Tool
 เป็นเครื่องมือตัวหนึ่ง ซึ่งอยู่ในกลุ่มเดียวกับ Spot and Heling Bursh Tool การทำงานของเครื่องมือนี้จะเป็นการแก้ไขวัตถุบนภาพที่แนบเนียนมากเพราะจะไม่ทิ้งร่อยรอยให้เห็นว่ามีการปรับแต่ง

วิธีการใช้เครื่องมือ เมื่อเลือกเครื่องมือแล้ว เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นเหมือนกับรูปเครื่องมือ และมีลูกศรอยู่ด้านบน ให้ทำ Selection โดยการลากเส้น Selection ล้อมรอบวัตถุที่ต้องการแก้ไข เช่น ลบ หรือ เพิ่ม แล้วคลิกลากไปยังตำแหน่งใหม่

อุปกรณ์ของเครื่องมือนี้สองแบบ ลักษณะการทำเหมือนกันแต่ผลที่ได้จะต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความต้องการของชิ้นงานด้วยว่าต้องการแบบใหน เพราะดีทั้งสองตัว แต่ต้องเลือกให้เหมาะกับการใช้งานนั้นๆ
แบบที่หนึ่ง เป็นแบบธรรมดา Normal  / แบบที่สอง เป็นแบบ Content-Aware



การแก้ไขโดยใช้เครื่องมือ Patch แบบ Normal มีเทคนิคการทำอยู่สองลักษณะ คือ Source กับ Destination
Source =เมื่อเรากำหนด Selection แล้ว ให้ลากไปยังจุดที่ต้องการภาพมาทดแทนส่วนที่เราทำ Selection ไว้
Destination =ลักษณะเหมือน Source แต่จะเป็นการลากเพื่อนำส่วนที่ทำ Selection ไปวางไว้ที่อื่น เหมือนกับเป็นการเพิ่มสิ่งนั้นลงบนภาพ



การแก้ไขโดยใช้เครื่องมือ Patch แบบ Content-Aware ลักษณะนั้นจะเหมือนกัย Patch แบบ Normal แต่จะสามารถกำหนดคุณสมบัติในการจัดการกับภาพได้อีก 5 แบบ ได้แก่  Very Strict, Strict, Medium, Loose, Very Loose ถามว่าต้องใช้แบบใหน ตอบยากครับ เพราะต้องลองใช้ขณะนั้นว่ากำหนดแบบใหมเหมาะกับชิ้นงานทีเรากำลังทำมากที่สุด


Content-Aware Move Tool เครื่องมือนี้จะคล้ายกับ Patch แบบ Normal ที่เป็นลักษณะ Destination แต่ถ้าเปรียบเทียบกันแล้ว เครื่องมือนี้จะดีกว่า ภาพที่ได้จะออกมาสมจริงกว่า เพราะจะมีการปรับสภาพรอบๆ Selection ให้ใกล้เคียงมากที่สุด พร้อมทั้งยังมีเครื่องมือเสริม นั่นคือ Extend คือการยืด หรือขยายวัตถุนั่นเอง


Content-Aware Scale Tool ใช้ในกรณีที่ต้องการยืดพื้นที่ของภาพโดยที่ไม่กระทบกับส่วนที่เราได้ทำได้ทำ Selectin คลุมไว้ เครื่องมือนี้จะอยู่ที่โปรแกรมเมนูของ Photoshop เลือกโปรแกรมเมนู Edit เลือก Content-Aware Scale เทคนิคการใช้เครื่องมือนี้ เริ่มแรกจะต้องการเพิ่ม Canvas ให้กับภาพก่อน (การเพิ่ม Canvas หมายถึงการเพิ่มทีว่างให้กับภาพ) จากนั้นต้องทำ Selection และตั้งชื่อให้ Selection สำหรับส่วนที่ไม่ต้องการให้กระทบก่อนที่จะใช้เครื่องมือ แล้วให้เลือก Protect เป็นชื่อ Selection ที่เราตั้งชื่อไว้ เทคนิคอีกอย่างในการใช้เครื่องมือนี้ คือ อย่าทำการยืดพื้นที่ให้เสร็จในครั้งเดียว ให้ทำแบบค่อยๆ ยืดพื้นที่ และทำซ้ำหลายๆ ครั้ง จะได้ภาพที่สมจริงที่สุด

การปรับแต่งภาพโดย Level Adjustment
เครื่องมือ Level Adjustment ใช้สำหรับปรับ Contrast ของภาพได้ดีเครื่องมือหนึ่ง คีย์ลัดของเครื่องมือนี้ คือ Ctrl + L

วิธีการปรับทำได้โดย การเลื่อนปุ่ม Shadow (ปุ่มซ้ายมือ) Midtone (ปุ่มกลาง) และ Highlight (ปุ่มขวา) เมื่อเปิดเครื่องมือขึ้น จะแสดงให้เห็นถึงความ Contrast ของภาพที่เราเปิดอยู่ว่าเป็นอย่างไร ทำให้เราสามารถทำการปรับได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่เลื่อนปุ่ม Shadow และ Highlight ให้เข้าใกล้กับจุดเริ่มต้นแต่ละด้านของกร๊าฟ Histogram ให้มากที่สุด สำหรับ Midtone เป็นการปรับเสริมโดยการเลื่อนไปด้านใดด้านหนึ่งให้ได้ภาพที่ดีที่สุด สำหรับมือใหม่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าควรปรับเท่าไร ให้ใช้เมนู Auto โดยการคลิกที่ปุ่ม Auto ก็จะได้ภาพที่ Contrast โดยอัตโนมัติ 

การปรับด้วยเครื่องมือ Level นี้ จะเลือกการปรับที่สีรวมของภาพ (RGB) หรือจะเลือกปรับจากแต่ละสี Red Green Blue ก็ได้ โดยการคลิกช่อง RGB ที่เห็น รายการก็เลื่อนลงมาให้เราเลือก 

Output Level เป็นเครื่องมือเสริมของ Level Adjustment หน้าที่ของตัวนี้ทำได้หลายอย่าง เช่น ช่วยลด Saturate (ความอิ่มตัวของสี) ของภาพ หรือ ลดความเบลอก็ได้ แต่ทั้งนี้ต้องใช้หลังจากการปรับด้วยเครื่องมือหลักแล้ว (ผู้ใช้เครื่องมือนี้ต้องมีความชำนาญในการแต่งภาพพอสมควร)


เท่านี้ยังไม่พอครับ ถ้ากดปุ่ม Alt แล้วคลิกที่ปุ่ม Auto จะได้หน้าต่าง Auto Color Correction Options เพิ่มมาให้เราเลือกอีก 4 รายการ แต่ละรายการก็จะเหมาะกับภาพที่ต้องการ Contrast แต่ละแบบ ลองฝึกใช้ดูครับ




การปรับความคมชัดของภาพ Sharpening Filter

Smart Sharpen เครื่องมือแรกที่จะแนะนำนี้ เป็นเครื่องมือปรับความชัดของภาพ โดยเปิดจากโปรแกรมเมนู Filter เลือก Sharpen เลือก Smart Sharpen จะได้หน้าต่างเครื่องมือดังภาพ (ก่อนใช้เครื่องมือต้องทำให้เลเยอร์นั้นเป็น Smart Filter ก่อน โดยการเลือกโปรแกรมเมนู Filter เลือก Smart Filter)

Default ของโปรแกรม จะตั้งเป็น Basic และค่าต่างๆ ก็ตามที่เห็นในภาพ วิธีเช็คว่าค่า Default นี้ปรับแล้วภาพคมชัดขึ้นหรือไม่ สามารถทำได้สองแบบ โดยการนำเครื่องหมายในช่อง Preview ออก ก็จะเห็นภาพก่อนการปรับที่จอภาพ หรือคลิกค้างไว้ที่ภาพในกรอบของเครื่องมือ ก็จะได้เห็นภาพก่อนการปรับเช่นกัน

การตั้งค่า :Amount  เป็นตัวเลขเปอร์เซ็นต์การปรับความคมชัด ซึ่งปรับได้ตั้งแต่ 1 - 500% การตั้งค่าควรตั้งให้สูง ไว้ก่อน ไม่ต้องกังวลว่าจะเกิด Noise (จุดสี) มากแค่ใหน ขอให้ดูแล้วภาพนั้นยังคงรายละเอียดของภาพไว้ได้ก็พอ จากนั้นค่อยปรับลด Noise โดยการคลิกสัญญลักษณ์ของ Smart Filter บนเลเยอร์ และปรับค่า Blending Option (Smart Sharpen) ให้เป็น Luminosity และ Opacity ที่เหมาะสม


Radius ภาพที่ปรับ Amount สูง จะเกิดการเติมสีให้กับภาพ เรียกว่ารัศมี (Halo) จึงต้องใช้ Radius เป็นตัวช่วยลด

Remove ใช้สำหรับการลบความเบลอของภาพ ที่เกิดจากการเบลอแต่ละประเภท ได้แก่ Gaussian, Len, และ Motion Blur (Gaussian มักเกิดจากการแสกนภาพ และภาพที่มีการปรับแต่ง, Len blur กับ Motion blur เกิดจากการปรับเลนส์ และความสั่นของกล้อง สิ่งสำคัญ ถ้าทำการลบความเบลอแบบ Motion blur อย่าลืมปรับองศา หรือทิศทางที่เกิดความเบลอให้ตรงกับทิศทางของ Motion blur ด้วย)

More Accurate คือการเพิ่ม Noise หรือเม็ดสีให้กับภาพเพื่อเพิ่มความคมชัดมากขึ้น การทำลักษณะนี้จะเหมาะกับภาพที่ต้องการเพิ่มความคมชัดให้กับภาพที่มีรายละเอียดของภาพมากๆ เช่นลายของหนังสัตว์


การบันทึกการตั้งค่าเครื่องมือ Smart Sharpen สามารถบันทึกค่าที่เราปรับเองได้ โดยการคลิกไอคอน Save บนเครื่องมือ แล้วทำการตั้งชือ รายการที่บันทึกไว้ก็จะรวมอยู่ในรายการ Setting

การลบการตั้งค่า เลือกรายการในช่อง Setting แล้วคลิกทีไอคอนถัง

Sharpening with the Emboss filter  เครื่องมือเพิ่มความคมชัดของภาพ และลดความเบลอซึ่งเกิดจากการสั่นของกล้อง เปิดใช้เครื่องมือโดย โปรแกรมเมนู เลือก Filter เลือก Stylize เลือก Emboss จะได้หน้าต่างเครื่องมือดังภาพ ปรับค่า Angle ให้ตรงกับทิศทางของการสั่นของกล้อง, Amount ปรับเปอร์เซ็นต์ให้สูงไว้ก่อน จากนั้นค่อยปรับลดโดยการคลิกสัญญลักษณ์ของ Smart Filter บนเลเยอร์ และปรับค่า Blending Option (Emboss Filter) ให้เป็น Linear Light และ Opacity ที่เหมาะสม


Sharpening with High Pass filter โปรแกรมเมนูเลือก Filter เลือก Other เลือก High Pass ลักษณะการปรับความคมชัดของเครื่องมือนี้ คือ โปรแกรมจะใส่สีเทาลงไปในทุกส่วนที่เป็นขอบของภาพ เหมาะสำหรับภาพที่มีการเบลอประเภท Gaussian Blur

การปรับค่า Radius ตั้งไว้ประมาณ 1.5 Pixels จากนั้นค่อยปรับลดโดยการคลิกสัญญลักษณ์ของ Smart Filter บนเลเยอร์ และปรับค่า Blending Option (High Pass) ให้เป็น Linear Light และ Opacity ที่เหมาะสม


Sharpen Tool เป็นเครื่องมือตัวหนึ่งที่อยู่ในแถบเครื่องมือของโปรแกรม Photoshop ใช้สำหรับเพิ่มความคมชัดของภาพ


วิธีการใช้เครื่องมือ ทำโดยเมื่อเลือกเครื่องมือแล้ว ให้ทำการทาลงไปบนส่วนของวัตถุ หรือ ส่วนของภาพที่ต้องการให้เกิดความคมชัดเพิ่มขึ้น การใช้เครื่องมือนี้ ส่วนมากจะเป็นลักษณะที่ต้องการเพิ่มให้กับบางส่วนของภาพเพียงเล็กน้อยเท่านั้น สิ่งสำคัญ ต้องสร้างเลเยอร์ใหม่ขึ้นมาก่อนเพื่อเก็บสิ่งที่เราทาไว้ในเลเยอร์นี้ (เพื่อป้องกันการทำลายภาพ Non Destructive) และคลิกเลือก Sample All Layers ที่แถบควบคุมเครื่องมือเพื่อจะได้สามารถทาได้กับทุกเลเยอร์ ส่วนการเลือก Protect Detail เป็นการบอกให้เครื่องมือรักษารายละเอียดของภาพไว้ด้วย เพราะการเพิ่มความชัดด้วยเครื่องมือนี้ รายละเอียดของภาพอาจลดลงได้ ขั้นตอนสุดท้ายปรับ Blend Mode ของเลเยอร์นั้น ให้เป็น Luminosity
















การสร้างตัวหนังสือ Creating and Formatting Text

เครื่องมือนี้อยู่ในแถบเครื่องมือของโปรแกรม Photoshop CS6 คีย์ลัดของเครื่องมือนี้ คือ T พร้อมทั้งมีแถบควบคุมเครื่องมือเพื่อตั้งค่าต่างๆ ได้มากมาย เริ่มจากซ้ายสุด คือ การตั้ง Font Family หรือ ประเภทของตัวหนังสือ ถัดไปก็เป็นแบบตัวหนังสือ, ขนาดตัวหนังสือ ช่องถัดไปใช้สำหรับเลือกการปรับชนิดของขอบตัวหนังสือ ถัดไปก็เป็นการจัด Paragraph, สีตัวหนังสือ, ที่เห็นเป็นไอคอนตัว T และเส้นโค้งอยู่ด้านล่าง (Create Warped Text) ก็คือการใส่ลักษณะการบิดต่างๆ ให้กับตัวหนังสือ, ไอคอนสุดท้ายคือ การเปิด Character and Paragraph Panels เพื่อเพิ่มเทคนิคการแต่งตัวหนังสือ


เทคนิค การจัด Paragraph มีคีย์ลัดให้เราใช้ได้อย่างรวดเร็ว ดังนี้
  • Ctrl + R = การจัด Paragraph ให้อยู่ชิดด้านขวา
  • Ctrl + C = การจัด Paragraph ให้อยู่ตรงกลาง
  • Ctrl + V = การจัด Paragraph ให้อยู่ชิดด้านซ้าย
เทคนิคการเพิ่มขนาดตัวหนังสือ ให้คลุมเลือกที่ตัวหนังสือ
  • กดปุ่ม Ctrl + Shift + กดปุ่ม . (period) แต่ละครั้งจะเป็นการเพิ่มขนาด 2 point
  • กดปุ่ม Ctrl + Shift + กดปุ่ม , (comma) แต่ละครั้งจะเป็นการลดขนาด 2 point
  • ถ้าต้องการเพิ่ม หรือ ลดขนาด ครั้งละ 10 point ให้เติมปุ่ม Alt เข้าไปด้วย
  • ถ้ามีการเพิ่มขนาดภาพ ขนาดตัวหนังสือที่อยู่บนภาพ จะเพิ่มขนาดโดยอัตโนมัติ
เทคนิคการเลือกตัวหนังสือ 
  • คลิกหนึ่งครั้งเป็นการเลือกตัวหนังสือตัวเดียว
  • คลิกสองครั้งเป็นการเลือกตัวหนังสือคำเดียวที่ติดกันในประโยค
  • คลิกสามครั้งเป็นการเลือกตัวหนังสือทุกคำที่ไม่ติดกัน หรือ ทั้งประโยค หรือ ทำได้โดยการ กดปุ่ม Ctrl + A เมื่อเม้าส์คลิกอยู่ที่แถบตัวหนังสือก็ได้เช่นกัน
  • ซ่อนแถบแสงที่คลุมตังหนังสือเมื่อทำการเลือก เพื่อให้เห็นตัวหนังสือได้ชัดเจน โดยการกดปุ่ม Ctrl + H
เทคนิคการเปลี่ยนสีตัวหนังสือ 
  • ให้คลิกที่ช่องสีบนแถบควบคุมเครื่องมือ จะปรากฏหน้าต่าง Color Picker ขึ้นมาให้เลือก 
  • หรือถ้าจะไม่เลือกสีใน Color Picker และต้องการเลือกจากสีที่อยู่ในภาพแทน ให้เลื่อนเม้าส์มาที่ภาพ (ขณะที่หน้าต่าง Color Picker เปิดอยู่) เม้าส์จะเปลี่ยนเป็นรูปหลอดดูดสี ทำการคลิกตำแหน่งที่ต้องการเลือกสี 
  • อีกเทคนิคหนึ่งคือ การกดปุ่ม Alt + Backspace จะเป็นการนำสี Foreground มาแทนที่สีเดิมของตัวหนังสือ
การสร้าง Point Text เมื่อเลือกเครื่องมือ T แล้ว ให้คลิกลงบนจุดที่เราต้องการพิมพ์ จุดที่เห็นนี่คือการสร้าง Point Text นั่นเอง เมื่อคลิกแล้วเลเยอร์ตัวหนังสือก็จะสร้างขึ้นมาให้โดยอัตโนมัติ ชื่อของเลเยอร์ตัวหน้งสือ จะตั้งให้เองโดยใช้ข้อความที่เราพิมพ์มาเป็นชื่อ ทั้งนี้เพื่อให้รู้ว่าข้อความใดอยู่ในเลเยอร์ไหน

การยอมรับตัวหนังสือ หมายถึงเวลาที่เราพิมพ์เสร็จแล้ว ให้เรากด Enter (Desktop ใช้ปุ่ม Enter ที่ตั้งรวมอยู่กับแป้นปุ่มตัวเลขของคีย์บอร์ด เพราะถ้าใช้ Enter ในส่วนอื่นจะเป็นการขึ้นบรรทัดใหม่  สำหรับ Notebook ให้กดปุ่ม Ctrl + Enter) หรือ ใช้วิธีกดที่เครื่องหมายถูกบนแถบควบคุมเครื่องมือตัวหนังสือ

การแก้ไขตัวหนังสือ คลิกที่แถบตัวหนังสือและเลือกแก้ไข ดับเบิ้ลคลิกที่ตัวหนังสือ หรือ ที่รูปตัว T บนเลเยอร์ตัวหนังสือ จะเป็นการเลือกทั้งประโยค สามารถพิมพ์ข้อความใหม่ได้ทั้งหมด
  • ถ้าต้องการลบให้ใช้ปุ่ม Del หรือ Backspace 
  • ถ้าต้องการเพิ่มตัวหนังสือก็พิมพ์เพิ่มได้เลย
  • ถ้าต้องการเปลี่ยนสี เปลี่ยนรูปแบบตัวหนังสือ หรือเปลี่ยนอะไรก็ตามที่เป็นการแก้ไขทั้งข้อความ ให้คลุมตัวหนังสือนั้นก่อน แล้วเลือกสิ่งที่ต้องการจะเปลี่ยน
  • ถ้าเปลี่ยนใจต้องการยกเลิกการแก้ไข ให้กดปุ่ม Esc
  • ถ้าต้องการเปลี่ยนตำแหน่งตัวหนังสือ ให้กดปุ่ม Ctrl + คลิกที่ตัวหนังสือโดยตรง หรือ ใช้เครื่องมือ Move Tool คีย์ลัด V คลิกที่เลเยอร์ตัวหนังสือ แล้วนำเม้าส์ไปคลิกลากที่ตัวหนังสือ เพื่อลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการก็ได้เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น